วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เด็กพันธุ์นรกสั่งลุย

เด็กพันธุ์นรกสั่งลุย

เด็กพันธุ์นรกสั่งลุย
Beelzebub manga Volume 1.jpg
ชื่อไทย เด็กพันธุ์นรกสั่งลุย
ชื่อญี่ปุ่น べるぜバブ,
ชื่ออังกฤษ Beelzebub
ประเภท โชเน็น
แนว ตลก, ต่อสู้, เหนือธรรมชาติ

มังงะ
เขียนเรื่อง ริวเฮย์ ทามูระ
สำนักพิมพ์ ธงชาติของญี่ปุ่น สำนักพิมพ์ชูเอฉะ
ธงชาติของไทย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์
ลงนิตยสาร ธงชาติของญี่ปุ่น โชเน็นจัมป์
ธงชาติของไทย ซีคิดส์
เมื่อ ธงชาติของญี่ปุ่นกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552ปัจจุบัน
จำนวนเล่ม ธงชาติของไทย 9 เล่ม (ยังไม่จบ)
โอวีเอ
สร้างสรรค์ ปิเอโร่
ตอน 60 ตอน
เผยแพร่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ความยาว 34 นาที
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับ โนอุบุฮิโระ ทาคาโมโตะ
ผลิตโดย ปิเอโร่
ฉายทาง ธงชาติของญี่ปุ่น ยามิอุริทีวี
ฉายครั้งแรก ธงชาติของญี่ปุ่น 9 มกราคม พ.ศ. 2554 - ?
Wikikartoon.png ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
เด็กพันธุ์นรกสั่งลุย (ญี่ปุ่น: べるぜバブ Beruzebabu ในชื่ออังกฤษ Beelzebub ?) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เขียนโดย ริวเฮย์ ทามูระ เริ่มลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ตั้งแต่วันที่ กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 และลงตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ได้รับการจัดพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูนมาแล้ว 14 เล่ม
ในประเทศไทย เด็กพันธุ์นรกสั่งลุยได้รับลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ตีพิมพ์รายสัปดาห์ในนิตยสารการ์ตูนซีคิดส์ ตั้งแต่ฉบับที่ 48 ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552


เนื้อเรื่อง[แก้]

เรื่องราวของ ทัตสึมิ โองะ นักเลงแห่งโรงเรียนอิ ชิยามะ วันหนึ่ง เขาได้มีเรื่องกับคนอื่นซึ่งก็แน่นอน ว่าเขาก็ชนะอย่างสบายอยู่แล้ว...แต่เรื่องราวมัน จากนี้ต่างหาก ที่เขาได้เก็บเด็กทารกคนหนึ่งมา เด็กผู้นั้นมีนามว่า ไคเซอร์ เดอ เอมเพอราน่า เบลเซบับ ที่ 4 ว่าที่ ราชาปีศาจคนต่อไป แต่แล้ว ก็มีเลขาสาวของราชาปีศาจคนปัจจุบัน นามว่า ฮิลเดการ์ด ต้องมาดูแลเจ้าหนูเบลเรื่องราว ไม่ได้จบเพียงแค่นี้ ความวุ่นวายต่างๆจะ เริ่มขึ้นต่อจากนี้ไปต่างหาก

ตัวละคร[แก้]

ไคเซอร์ เดอ เอมเพอราน่า เบลเซบับ ที่ 4 (เบล) = ลูกชายของราชาปิศาจที่ถูกโองะเก็บมาเลี้ยง เมื่อเกิดอาการไม่พอใจเรื่องใด จะร้องไห้ออกไปพร้อมๆกับปล่อยพลังไฟฟ้ามหาศาลออกมาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ภายหลังสามารถรับฟังคำสั่งของโองะและปล่อยไฟฟ้าออกมาตามที่โองะต้องการได้ มีพี่ชายคือไคเซอร์ เดอ เอมเพอราน่า เอ็นโอ ซึ่งติดเกมเป็นชีวิตจิตใจ
ทัตสึมิ โองะ = เรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมปลายอิชิยามะ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น"โรงเรียนที่มีเด็กเกเร ถึง120%ของจำนวนนักเรียนในโรงเรียน" ซึ่งตัวโองะนั้นเองก็เป็นนักเลงที่เก่งมาก และต่อยตีไม่เคยแพ้ใครเลย แม้บางครั้งเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกพอใจที่ตัวเองต้องสู้ ได้รับ ฉายา"เดมอนแห่งคาตะจู"และเป็นพ่อเลี้ยงของเบล มีพันธะสัญญากับเบลซึ่ง เรียกว่า เซเวิลสเปล(สัญญาราชาปีศาจ) อยู่ที่มือขวา สัญญานี้จะมีพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโองะทำสิ่งที่เบลชอบ นั่นก็คือการทำร้ายร่างกายผู้คน อุปนิสัยเฉื่อยชา เลือดร้อนเฉพาะตอนทำเรื่องไม่เป็นเรื่องหรือตอนสู้ ไม่ค่อยฟังความเห็นของคนอื่นนัก หยิ่งทะนงและเชื่อมั่นในตัวเองสูง อย่างไรก็ตาม เมื่อจำเป็นต้องเข้าไปพัวพันกับการสู้ที่เดิมพันด้วยพวกพ้องและศักดิ์ศรี โองะจะแสดงฝีมือออกมาได้สูงสุดสมฉายาเดมอนเลยทีเดียว
ฮิลเด การูด้า (ฮิลด้า)=ปีศาจรับใช้ของราชาปีศาจ เกิดในตระกูลชั้นสูงและอยู่ในแถวหน้าของบรรดาปีศาจสาวรับใช้ มีผมสีทอง แต่งตัวสไตล์โกธิคโลลิต้า ใช้ร่มสีชมพูที่ซ่อนดาบไว้ข้างในเป็นอาวุธ โดยที่ได้รับหน้าที่ดูแลช่วยเหลือเบลในทุกๆด้าน เป็นคนเย็นชา ทำอาหารไม่เก่ง แต่จงรักภักดีกับเบลและยอมตายแทนได้ บางครั้งก็ออกหน้าช่วยโองะเต็มที่โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เห็น
อาโออิ คุนิเอดะ = นักเรียนมัธยมปลายอิชิยามะหัวหน้า แก๊ง เลดี้ส์ เรดเทล ที่แข็งแกร่งที่ สุดใน คันโต เป็นผู้หญิงที่สวยมากและยังหลง ทัตสึมิ โองะ อย่างจัง มีอาวุทคือดาบไม้
ฮิเดโทระ โทโจ = คนที่แข็งแกร่งที่สุดโทโฮชินกิ (กลุ่มนักเรียนที่มีอิทธิพลในโรงเรียนชิยามะ )มีเซเวิล สเปลที่ไหล่ขวา ภายหลังได้รับการเปิดเผยว่าเป็นแค่รอยสักที่โทโจทำเลียนแบบซาโอโตเมะ เซ็นจูโร่ที่ตนนับถือเท่านั้น อย่างไรก็ตาม โทโจเป็นประเภทนักสู้แต่กำเนิด ความแข็งแกร่งถือว่าอยู่ในระดับสุดยอดและพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆราวกับสัตว์ป่า โทโจมักจะขาดเรียนบ่อยเนื่องจากการทำงานงานนอกเวลาหลายแห่ง หนึ่งในงานของเขาคืองานก่อสร้าง
อแลงเดอลง = เป็นปิศาจขนย้ายข้ามมิติ ที่พาเบลมายังโลกมนุษย์ คอยช่วยเหลือพวกโองะอยู่เป็นระยะๆ พักอยู่ที่บ้านฟุรุอุจิ มีนิสัยประหลาดๆ
ทาคายูกิ ฟุรุอุจิ = เพื่อนสนิทของโองะ เรียนอยู่ในโรงเรียนอิชิยามะเช่นเดียวกันกับโองะ หากแต่ว่าเขาไม่มีท่าทีของนักเลงเลยแม้แต่น้อย และดูเหมือนนักเรียนธรรมดาๆผิดกับนักเรียนคนอื่นๆ ที่ทำตัวเป็นเด็กเกเร
ทัตสึยะ ฮิเมะคาว่า = นักเลงที่สามารถซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงิน และเป็นผู้ออกคำสั่งให้ลูกน้องไปจับตัวฮิลเดการ์ดมา เพื่อเรียกให้โองะมาหา แต่ไม่ว่ายังก็ยังต้องโดนโอกะจัดการอยู่ดี
ฮาจิเมะ คันซากิ = นักเลงของโรงเรียนอิชิยามะ แต่แรกโอกะตั้งใจแต่จะเอาเจ้าหนูเบลไปให้ แต่พอเห็นนิสัยที่แท้จริงของคันซากิที่ไม่สนใจลูกน้อง ของตัวเองก็โดน โอกะต่อยเข้าอย่างจัง
ทาเคชิ ชิโรยามะ = ลูกน้องของ คันซากิ เป็นคนที่จงรักภักดีต่อ คันซากิมาก มีร่างกายที่ใหญ่โต จนมีฉายาว่า "ยักษ์ชิโรยามะ"
ชินทาโร่ นัตสึเมะ = ลูกน้องของ คันซากิ เหตุที่ติดตามคันซากิเพราะ ว่า มันสนุก สนใจในตัว โอกะ ด้วย
ชิโมะคาวะ =นักเลงของโรงเรียนอิชิยามะ เป็นตัวประกอบให้ โอกะซัดเล่น มีคำพูดติดปากว่า "Good Night" แต่จริงๆ เค้า ยังเขียนคำว่าGood night ไม่เป็นเลย มี ฉายาว่า"Goodnightชิโมะคาวะ"
อาเบะ = นักเลงของโรงเรียนอิชิยามะ เป็นตัวประกอบให้ โอกะ ซัดเล่น มีฉายาว่า "เครื่องจักรสังหารอาเบะ"
ราชาปีศาจ (พ่อของเบล) = พ่อที่แท้จริงของเบล ที่ส่งเบลมาที่โลกมนุษย์เพื่อกวาดล้างโลกมนุษย์ ซึ่งเดิมทีราชาปีศาจต้องการที่จะทำลายล้างโลกมนุษย์ด้วยตัวเอง หากแต่ว่าเนื่องจากมีธุระสำคัญมาก จึงส่งเบลมาให้ กวาดล้างโลกมนุษย์แทนแ

ประวัติ เมาเ่อ

มาริโอ้ เมาเร่อ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มาริโอ้ เมาเร่อ
Mario Maurer at Star Entertainment Awards 2007.jpg
รางวัลสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2007
ชื่อเกิด มาริโอ้ เมาเร่อ
ชื่อเล่น โอ้
เกิด 4 ธันวาคม พ.ศ. 2531 (24 ปี)
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ชื่ออื่น ณัฐวุฒิ, ไอ้แว่น[1]
อาชีพ นักแสดง, นายแบบ, นักร้อง
ปีที่แสดง 2547-ปัจจุบัน
ผลงานเด่น โต้ง รักแห่งสยาม
(พ.ศ. 2550)
โชน/พี่โชน สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า...รัก (พ.ศ. 2553)
เพลิง เพลิงทรนง (พ.ศ. 2554)
จัน วิสนันท์/จัน ดารา จัน ดารา ปฐมบท - ปัจฉิมบท (พ.ศ. 2555 และ พ.ศ. 2556)
พี่มาก พี่มาก..พระโขนง (พ.ศ. 2556)
แนวเพลง ฮิปฮอป
ค่าย เอ็นวายยูคลับ และ ช่อง 3
ส่วนเกี่ยวข้อง PsyCho & Lil'Mario
ข้อมูลบนเว็บ IMDb
ฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย (ThaiFilmDb)
เว็บทางการ
มาริโอ้ เมาเร่อ (เยอรมัน: Mario Maurer) (ชื่อเล่น: โอ้) เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2531 เป็นนักแสดงชาวไทย เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยได้รับการติดต่อจากโมเดลลิ่งในสยามสแควร์ โดยเริ่มจากงานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เช่น โฆษณาเอ็กซิท โรลออน ขนมแจ็ค เดอะพิซซ่าคอมปานี และยังได้ถ่ายแบบอยู่เรื่อยมา อย่าง เธอกับฉัน และหนังสือวัยรุ่นอีกหลายเล่มและถ่ายมิวสิกวิดีโอ อีกหลายตัวเช่น กุญแจที่หายไป ของ ปาล์มมี่, ปากดีขี้เหงาเอาแต่ใจ ของ มิล่า เป็นต้น
จนในปี 2550 มีผลงานสร้างชื่อจากภาพยนตร์ไทยเรื่อง รักแห่งสยาม ซึ่งจากบทบาท "โต้ง" ใน รักแห่งสยาม นี้ มาริโอ้ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากนิตยสารสตาร์พิกส์ รับรางวัลจากเทศกาลหนังซีเนมะนิลา ที่จัดขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงจาก รางวัลเอเชียนฟิล์ม สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิงครั้งที่ 16 ประจำปี 2550 ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และรางวัลสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส ครั้งที่ 6 ในสาขาผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม
มาริโอ้ได้ร่วมงานกิจกรรมการกุศลอยู่หลายครั้ง รวมถึงยังเป็นพรีเซนเตอร์ ในวันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี พ.ศ. 2551 ซึ่งจัดโดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และเป็นพรีเซนเตอร์ต่อต้านยาเสพติดให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

ประวัติฟุตบอล

ฟุตบอล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟุตบอล
Football iu 1996.jpg
ผู้เล่นฝ่ายรุก (หมายเลข 10) พยายามจะเตะลูกฟุตบอลให้ผ่านผู้รักษาประตู และ เข้าไประหว่างเสาประตูเพื่อทำคะแนน
สมาพันธ์สูงสุด ฟีฟ่า
ชื่อเล่น Football, soccer, futbol, footy/footie, "the beautiful game"
เล่นครั้งแรก กลางศตวรรษที่ 19 ในประเทศอังกฤษ
ลักษณะเฉพาะ
สัญญา ใช่
ผู้เล่นในทีม 11 คน ต่อฝั่ง
ผสม มีการแข่งขันแยกชาย-หญิง
หมวดหมู่ กีฬาที่เล่นเป็นทีม, กีฬาที่ใช้ลูกบอล
อุปกรณ์ ลูกฟุตบอล
สถานที่ สนามฟุตบอล
กีฬาโอลิมปิก 1900
ฟุตบอล หรือ ซอกเกอร์ เป็นกีฬาประเภททีมที่เล่นระหว่างสองทีมโดยแต่ละทีมมีผู้เล่น11คน โดยใช้ลูกบอล เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายว่าเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก[1][2][3]
โดยจะเล่นในสนามหญ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือ สนามหญ้าเทียม โดยมีประตูอยู่กึ่งกลางที่ปลายสนามทั้งสองฝั่ง เป้าหมายคือทำคะแนนโดยพาลูกฟุตบอลให้เข้าไปยังประตูของฝ่ายตรงข้าม ในการเล่นทั่วไปผู้รักษาประตูจะเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถใช้มือหรือแขนกับลูกฟุตบอลได้ ส่วนผู้เล่นอื่นๆจะใช้เท้าในการเตะลูกฟุตบอลไปยังตำแหน่งที่ต้องการ บางครั้งอาจใช้ลำตัว หรือ ศีรษะ เพื่อสกัดลูกฟุตบอลที่ลอยอยู่กลางอากาศ โดยทีมที่พาลูกฟุตบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ถ้าคะแนนเท่ากันให้ถือว่าเสมอ แต่ในบางเกมที่เสมอกันในช่วงเวลาปกติแล้วต้องการหาผู้ชนะจึงต้องมีการต่อเวลาพิเศษ และ/หรือยิงลูกโทษขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของรายการแข่งขันนั้นๆ
โดยกฎกติกาการเล่นสมัยใหม่จะถูกรวบรวมขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ในปีพ.ศ. 2406 ได้กำเนิดLaws of the Gameเพื่อเป็นแนวทางกติกาการเล่นในปัจจุบัน ฟุตบอลในระดับนานาชาติจะถูกวางระเบียบโดยฟีฟ่า ซึ่งรายการแข่งขันที่มีเกียรติสูงสุดในระดับนานาชาติคือการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี[4]